ความเป็นมาของภาษาเกาหลี

ความเป็นมาของภาษาเกาหลี

ในอดีตประเทศเกาหลีนั้นไม่มีอักษรเป็นของตนเอง ชาวเกาหลีจึงได้รับเอาอักษรจากจีนมาใช้   ซึ่งอักษรจีนนั้น ขึ้นชื่อว่าเป็นอักษรที่ยาก เพราะมีความซับซ้อน ต้องใช้ระยะเวลาในการศึกษามากจึงจะสามารถศึกษาภาษาจีนได้อย่างแตกฉานด้วยเหตุผลนี้เอง ในสังคมเกาหลีจึงมีแต่ชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถศึกษาอักษรจีนได้    ชาวบ้านสามัญชนธรรมดาจึงไม่สามารถอ่านและเขียนอักษรจีนได้ในปี ค.ศ.1443 ซึ่งตรงกับรัชสมัยของพระเจ้าเซจงมหาราชพระองค์ทรงตระหนักถึงปัญหานี้ พระองค์จึงต้องการให้ประเทศเกาหลีมีอักษรเป็นของตนเองและอักษรนั้นจะต้องเป็นอักษรที่ประชาชนทั่วไปสามารถเรียนรู้ได้ง่ายพระองค์และคณะนักปราชญ์ในยุคนั้นจึงได้ประดิษฐ์ พยัญชนะ และสระเกาหลีขึ้นมารวมเรียกว่า 혼민정음 (ฮุนมินจองอึม) แปลว่า “เสียงอักษรที่ถูกต้องไว้เพื่อสอนประชาชน”ต่อมาก็ได้มีการพัฒนา และปรับปรุงมาเรื่อยๆ จนในที่สุดได้ปรับเปลี่ยนชื่อจาก 혼민정음 (ฮุนมินจองอึม)มาเป็น 한글 (ฮันกึล) ซึ่งแปลว่า “อักษรเกาหลี   เรียกว่าอักษรฮันกึล ใช้แทนเสียงของแต่ละพยางค์ นอกจากนี้ใช้ยังตัวอักขระแบบจีนเรียกว่าอักษรฮันจา ในการเขียนด้วย ในขณะที่คำศัพท์ที่ใช้กันส่วนใหญ่เป็นคำภาษาเกาหลีแท้ โดยที่มีคำศัพท์มากกว่า 50% มาจากภาษาจีนทั้งทางตรงและทางอ้อม”  ภาษาเกาหลี เป็นภาษาที่ส่วนใหญ่พูดใน ประเทศเกาหลีใต้ และ ประเทศเกาหลีเหนือ ซึ่งใช้เป็นภาษาราชการ และมีคนชนเผ่าเกาหลีที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนพูดโดยทั่วไป(ในจังหวัดเหยียนเปียน มณฑลจื๋อหลิน ซึ่งมีพรมแดนติดกับเกาหลี) ทั่วโลกมีคนพูดภาษาเกาหลี 78 ล้านคน รวมถึงกลุ่มคนในอดีตสหภาพโซเวียต สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล ญี่ปุ่น และเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีผู้พูดใน ฟิลิปปินส์ ด้วย การจัดตระกูลของภาษาเกาหลีไม่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่คนส่วนมากมักจะถือเป็นภาษาเอกเทศ นักภาษาศาสตร์บางคนได้จัดกลุ่มให้อยู่ใน ตระกูลภาษาอัลไตอิกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากภาษาเกาหลีมีวจีวิภาคแบบภาษาคำติดต่อ ส่วนวากยสัมพันธ์หรือโครงสร้างประโยคนั้น เป็นแบบประธาน-กรรม-กริยา (SOV)
ตัวอย่างคำทักทายภาษาเกาหลี
*** 환영합니다 = ยินดีต้อนรับ ***

เริ่มต้นด้วยคำทักทายกันก่อนนะคะ 

안녕하세요. อัน นยอง ฮา เซ โย

안녕히 가세요. อันยองฮี คา เซโย / ลาก่อน (พูดกับคนที่ไป)* 

안녕히 계세요. อันยองฮี คเย เซโย / ลาก่อน (พูดกับคนที่อยู่)* 

안녕히 주무세요. อันยองฮี ชูมู เซโย / ราตรีสวัสดิ์ 

감사합니다. คัมซา ฮัมนีดา /ขอบคุณ 

미안합니다. มีอัน ฮัมนีดา / ขอโทษ 

실례합니다. ชิล รเย ฮัมนีดา / ขอโทษ (ลักษณะที่เสียมารยาท) 

괜찮습니다. แคว็นชั่น ซึมนีดา / ไม่เป็นไร (ตอบรับคำขอโทษ/ ขอบคุณ) 

천만에요. ชอนมา เนโย / ไม่เป็นไร (ตอบรับคำขอบคุณ) 

* สงสัยมั้ยคะว่าทำไมต้องมี 2 แบบ เพราะถ้าแปลตามความหมายตรงตัวจะแปลว่าขอให้ไปดีๆ/อย่างสวัสดิภาพนะคะ 
และแบบที่ 2 คือขอให้อยู่ดีๆ/อย่างสวัสดิภาพนะ ดังนั้นใครจะอยู่ใครจะไปก็อวยพรกันให้ถูกนะคะ อย่าสับสน 
แต่เอ๊ะแล้วถ้าต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปล่ะ - ง่ายๆค่ะ ต่างคนต้องต่างพูดว่า อันยองฮี คาเซโย ค่ะ 


제 이름은.........입니다. เช อีรือมึน ............ อิมนีดา / ผม,ดิฉันชื่อ............ 

반갑습니다. พันกับ ซึมนีดา / ยินดีที่ได้รู้จัก 

또 만납시다. โต มันนับชีดา / แล้วพบกันใหม่ 


ตัวอย่างประโยคแนะนำตัวเอง 

안녕하세요? 저는 김하나 입니다. 반갑습니다. 
อันยอง ฮา เซโย ชอนึน คิมฮานา อิมนีดา. พันกับ ซึมนีดา 
สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ คิมฮานา ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

คำขอบคุณ

감사합니다. คัมซา ฮัมนีดา/ คัมซามีดา = ขอบคุณ (สุภาพกว่า) 
고맙습니다. โคมับ ซึมนีดา = ขอบคุณ
고마워요. โคมาวอโย ขอบคุณ (สุภาพน้อยกว่า) 
고맙다. โคมับตะ = ใช้พูดกับเด็กๆ

คำตอบรับขอบคุณ 

괜찮습니다./ 천만에요. ไม่เป็นไรครับ/คะ 

คำขอโทษ 

죄송합니다. ชเว ซง ฮัมนีดา = ขอโทษ (สุภาพกว่า) 
미안합니다. ขอโทษค่ะ 
미안해요/ 죄송해요. มีอันแฮโย/ชเว-ซง แฮโย (สุภาพน้อยกว่า)

คำตอบรับขอโทษ 

괜찮습니다. ไม่เป็นไรครับ/คะ

ที่มา https://narthai.wordpress.com/เครื่องหมายสัญลักษณ์อง/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

อยากได้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลีเชิญอ่านในบล็อคนี้นะคะ

ทุกคนที่เข้ามาดูในบล็อคนี้นะคะทุกคนรู้รึป่าวว่าในวัฒนธรรมเกาหลีมีอะไรบ้างเเละในประเทศเกาหลีคนเกาหลีส่วนใหญ่กินอะไรเป็นอาหารหลักหรือชุดประจำช...